5 ขั้นตอนง่ายๆ ในการสร้างบรรยากาศโรงภาพยนตร์ภายในบ้าน

ในช่วงที่ผู้คนต้องกักตัว เปลี่ยนบ้านเป็นที่ทำงานและใช้เวลาเพิ่มขึ้นกับการดูความบันเทิงผ่านหน้าจอในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นจากคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ ทำให้พบว่ามียอดผู้ใช้เปิดดูวิดีโอออนไลน์มากถึง 72% ในเดือนกรกฎาคม 2563 จากการสำรวจของ Google และหากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังดำเนินต่อไป การดูคอนเทนต์ต่างๆ ผ่านอุปกรณ์มือถือก็จะเพิ่มสูงขึ้นไปอีกอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2565

สำหรับคนที่ชอบชมภาพยนตร์ อาจจะมองหามุมใดมุมหนึ่งในบ้านเพื่อเปลี่ยนเป็นโรงภาพยนตร์ส่วนตัวสำหรับนั่งดูวิดีโอ ซีรี่ส์ หรือภาพยนตร์เรื่องโปรด ด้วยเทคโนโลยีในทุกวันนี้ จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะสร้างบรรยากาศโรงภาพยนตร์ภายในบ้านได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพียงแค่ 5 ขั้นตอนง่ายๆ เริ่มที่ตกแต่งพื้นที่โรงภาพยนตร์ส่วนตัวตามต้องการ

ในขั้นตอนแรก ถ้าใครเลือกใช้ห้องนั่งเล่น ก็อาจจะเริ่มด้วยการหาโซฟาหรือเก้าอี้นั่งสบายๆ สักตัว จัดให้มีแสงสว่างในห้องที่พอเหมาะ ถ้าหลอดไฟที่ใช้สามารถปรับความสว่างขึ้นลงได้ก็ยิ่งดี แต่ถ้าใครมีหน้าต่างขนาดใหญ่ก็อาจจะติดผ้าม่านเพื่อลดแสงสว่างที่จะรบกวนภาพบนจอรับภาพ

ต่อมาคือการเลือกชุดเครื่องเสียง ซึ่งการจะเปลี่ยนห้องนั่งเล่นมาเป็นโรงภาพยนตร์ส่วนตัวนั้น ไม่ควรหยุดแค่การใช้ลำโพงบลูทูธ สำหรับคนที่พอมีงบอาจจะมุ่งไปที่ระบบเสียง Surround 5.1 ที่มีลำโพง 5 ตัว ด้านหน้ากลาง ซ้าย ขวา และอีกคู่วางซ้ายขวาด้านหลังห้อง เพื่อให้ได้เสียงรอบทิศ หรือจะขยับขึ้นไปเป็นระบบ Surround 7.1 ที่เพิ่มลำโพง Surround ซ้ายขวาอีกคู่ สำหรับคนที่ต้องการเสียงที่แน่นและทรงพลังยิ่งขึ้น

และแน่นอนว่าไม่มีอะไรน่ารำคาญใจไปกว่า การที่ต้องดูภาพยนตร์แบบออนไลน์ผ่านบริการสตรีมมิ่งแล้วพบว่าภาพจะหยุดค้างทุกๆ 5 วินาที จากปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ดังนั้นอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก โดยความเร็วขั้นต่ำ ควรมีอย่างน้อย 2 Mbps แต่ถ้าได้ถึง 10 Mbps หรือมากกว่า ก็จะยิ่งรับประกันอรรถรสในการดูภาพยนต์ขนาด Hi-Def ได้อย่างสบายๆ

การมีโรงภาพยนตร์ที่บ้านอาจจะไม่ต้องมีป๊อบคอร์นหรือน้ำอัดลม แต่อย่างน้อยก็ควรมีขนมขบเคี้ยวหรือเครื่องดื่มสักอย่างอยู่ใกล้มือ ช่วยให้บรรยากาศใกล้เคียงกับการชมภาพยนตร์ในโรงหนังได้ดียิ่งขึ้น

และสุดท้ายคือการเลือกวิธีฉายภาพ ไม่ว่าเทคโนโลยีการฉายภาพจะเป็นโทรทัศน์จอใหญ่หรือโปรเจคเตอร์แบบโฮมเอ็นเทอร์เทนเม้นท์ต้องคำนึงถึงขนาดของห้องนั่งเล่นหรือพื้นที่ฉายภาพ แต่คุณสามารถเลือกสิ่งที่รวบรวมจุดเด่นของทั้งสองเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน และให้คุณภาพระดับโรงภาพยนตร์ได้ ด้วยการเลือกใช้งาน Laser Projection TV

Epson EpiqVision เพื่อสุดยอดประสบการณ์การรับชมความบันเทิงภายในบ้าน

ไม่ว่าจะดูการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬา ดูสตรีมมิ่งซีรีส์เรื่องโปรด เล่นเกมจากคอนโซลรุ่นล่าสุด หรือดูภาพยนตร์สักเรื่อง ทุกช่วงเวลาจะกลายเป็นประสบการณ์อันน่ามหัศจรรย์ได้อย่างง่ายๆ ด้วย Epson EpiqVision Laser Projection TV หรือ เลเซอร์โฮมโปรเจคเตอร์จากเอปสัน โดยนวัตกรรมรุ่นล่าสุดนี้จะช่วยให้ความฝันของคนที่ต้องการประสบการณ์การชมความบันเทิงผ่านจอขนาดใหญ่ เป็นจริงได้ในทุกที่ที่ต้องการ ลดความกังวลเรื่องขนาดของพื้นที่ด้วยจอภาพที่ตัดแสงรบกวนโดยรอบ ทำจากเทคโนโลยีรับภาพแบบ Optical ซึ่งประกอบด้วยวัสดุเป็นชั้นๆ เสมือนเลนส์ สามารถสะท้อนเฉพาะแสงจากโปรเจคเตอร์ไปยังผู้ชม ให้ภาพฉายคุณภาพสูง คมชัดสว่างสดใส และมุมมองกว้างถึง 178 องศา

เลเซอร์โฮมโปรเจคเตอร์ Epson EpiqVision Ultra EH-LS500B และ EH-LS300B ได้นำเทคโนโลยีการฉายแสงด้วยเลเซอร์อาร์เรย์ในระยะสั้นพิเศษ ผสานเข้ากับจอรับภาพรุ่น ELPSC35 ที่มีคุณสมบัติป้องกันแสงรบกวนจากสภาพแวดล้อม เพื่อให้ได้ภาพที่มีสีสันสดใสเต็มอิ่มและสีดำสนิท ทั้งยังสามารถฉายภาพได้ใหญ่สุดถึง 120 นิ้ว ให้ประสบการณ์การรับชมที่ตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น

ในส่วนของรุ่นพกพาอย่าง ซีรีส์ EpiqVision Mini EF-100 ทั้งรุ่น EF-11 และ EF-12 ถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย สามารถยกจากห้องหนึ่งไปอีกห้องหนึ่งได้อย่างสบาย เพื่อให้ผู้ชมสามารถสร้างประสบการณ์โรงภาพยนตร์จอขนาดใหญ่ได้ทุกที่

นอกจากนี้ EpiqVision Mini EF-12 ยังใช้ระบบเสียงบิวท์อินที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะจาก Yamaha ในขณะที่รุ่น EpiqVision Mini EF-11 ก็มีลำโพงแบบโมโน 1.5W x 2 2 ติดตั้งในตัว

จอขนาดใหญ่แต่ราคาไม่แพงของ Epson EpiqVision ยังช่วยให้ผู้ใช้เต็มอิ่มกับความบันเทิงได้โดยไม่ต้องดูแลรักษานานถึง 10 ปี ผสมสานกับเทคโนโลยีแหล่งกำเนิดแสงเลเซอร์ของ EpiqVision ที่มีอายุการใช้งานได้นานทำให้ผลิตภัณฑ์นี้ช่วยประหยัดค่าไฟได้มากขึ้นและนานขึ้น โดยที่ความสว่าง คุณภาพของสี และค่าคอนทราสต์ดีกว่าโปรเจคเตอร์รุ่นที่ใช้หลอดไฟเป็นแหล่งกำเนิดแสง

หากความบันเทิงบนหน้าจอเป็นสิ่งที่คุณต้องการ สร้างพื้นที่ที่ให้คุณภาพในการรับชมภายในบ้านของคุณ เปลี่ยนห้องนั่งเล่นหรือที่ว่างในบ้านให้กลายเป็นโฮมเธียเตอร์แสนสบายที่คุณสามารถผ่อนคลายได้หลังเลิกงานและในวันหยุดสุดสัปดาห์ เพียงแค่ทำตาม 5 ขั้นตอนที่กล่าวมานี้ และคุณจะพบว่าการเนรมิตบรรยากาศโรงภาพยนตร์ภายในบ้าน ไม่ได้แพงและไม่ได้ยากอย่างที่คิด